ไทยพลัสนิวส์ ลักษณะเล็บ บอกสุขภาพได้
ไทยพลัสนิวส์ ลักษณะเล็บ บอกสุขภาพได้
ไทยพลัสนิวส์ ลักษณะเล็บ บอกสุขภาพได้ ถ้าคุณอยากรู้ว่าตอนนี้สุขภาพของคุณเป็นอย่างไร ลองก้มลงมอง เล็บ ของตัวเองดู รู้หรือไม่ว่า ความเปลี่ยนแปลงของสีหรือลักษณะของเล็บสามารถบอกได้ว่า ตอนนี้ร่างกายของคุณกำลังมีปัญหาหรือเปล่า และนี่คือความเปลี่ยนแปลงของเล็บที่คุณควรใส่ใจ
ไทยพลัสนิวส์ ลักษณะเล็บ บอกสุขภาพได้
ลักษณะเล็บ บอกสุขภาพได้
ลักษณะเล็บ : เล็บขาว โดย ไทยพลัสนิวส์
ถ้าเล็บเป็นสีขาวเกือบทั้งหมด หรือประมาณสองในสามส่วนของเล็บ อาจหมายถึงปัญหาโรคตับ เช่น โรคตับอักเสบ และโรคตับแข็ง นอกจากนี้ยังหมายถึงโรคเบาหวานและโรคหัวใจวายด้วย แต่หากเล็บสีขาวแต่นิ้วมือเป็นสีเหลืองอาจหมายถึงโรคดีซ่าน ซึ่งเกิดจากการที่ตับมีปัญหา ผู้ที่เป็นโรคไตวายเรื้อรัง มักมีเล็บเป็นสีขาวครึ่งเล็บ ส่วนถ้ามีสีขาวเป็นแถบขวางบนเล็บ และเมื่อใช้มือกดที่เล็บ สีขาวจะจางลง อาจหมายถึงภาวะขาดโปรตีนในร่างกาย (Hypoalbuminemia)
ลักษณะเล็บ : เล็บสีซีด
เล็บสีซีดอาจเป็นสัญญาณของโรคบางอย่าง เช่น โรคโลหิตจาง ภาวะหัวใจล้มเหลว โรคตับ หรืออาจจะแค่ขาดสารอาหารบางอย่างก็ได้
ลักษณะเล็บ : เล็บเหลือง
หนึ่งในสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดของอาการเล็บสีเหลือง คือการติดเชื้อรา ถ้าการติดเชื้อรุนแรงขึ้น เนื้อเยื่อใต้แผ่นเล็บอาจหดตัว และเล็บอาจหนาและงอ ในกรณีที่หาได้ยาก เล็บเหลืองอาจบ่งบอกถึงโรคร้ายแรงบางอย่าง เช่น ไทรอยด์เป็นพิษ โรคปอด โรคเบาหวาน หรือโรคสะเก็ดเงิน เล็บเหลืองยังอาจเป็นสัญญาณของ Yellow Nail Syndrome ซึ่งอาการของโรคนี้อาจทำให้เล็บหนาขึ้น แต่ไม่ยาวขึ้นเหมือนอย่างปกติ หนังรอบเล็บอาจหายไป หรือโคนเล็บร่อนขึ้นมา ซึ่งอาการนี้อาจมีสาเหตุมาจากโรคภายในหลายอย่าง เช่น การมีเนื้อร้ายในร่างกาย โรคของระบบทางเดินหายใจ โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ หรืออาจมาจากการบมของต่อมน้ำเหลืองที่มือก็เป็นได้
ลักษณะเล็บ : เล็บสีน้ำเงินอมเขียว
ในกรณีนี้ ตัวเล็บจะไม่ได้เปลี่ยนสีโดยตรง แต่ที่เนื้อเยื่อบริเวณใต้โคนเล็บจะกลายเป็นสีน้ำเงินอมเขียวจางๆ อาการนี้เรียกว่า nail bed cyanosis ซึ่งอาจหมายถึงการที่ร่างกายไม่ได้รับออกซิเจนอย่างเพียงพอ รวมทั้งอาจบ่งบอกได้ว่าปอดมีปัญหา เช่น โรคถุงลมโป่งพอง (Emphysema) หรือโรคหัวใจบางชนิด ก็อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เล็บมีสีเช่นนี้ได้
ลักษณะเล็บ : ผิวเล็บขรุขระ
ถ้าผิวเล็บขรุขระ มีลักษณะเป็นรูหรือเป็นหลุม อาจเป็นสัญญาณเบื้องต้นของโรคสะเก็ดเงิน หรือโรคข้ออักเสบ ซึ่งอาจพบการเปลี่ยนสีของเล็บร่วมด้วย โดยสีผิวใต้เล็บจะดูเป็นสีแดงอมน้ำตาล
ลักษณะเล็บ : เล็บแตกร่อน
เล็บที่แห้ง เปราะ แตกหรือร่อน อาจเชื่อมโยงกับโรคต่อมไทรอยด์ แต่ถ้าเล็บแตกร่อนและมีสีเหลืองร่วมด้วย อาจเกิดจากการติดเชื้อราในเล็บ
ลักษณะเล็บ : โคนเล็บบวม
ถ้าผิวรอบเล็บมีอาการบวมและแดง นี่บ่งบอกถึงอาการอักเสบเกิดของผิวหนังรอบเล็บ ซึ่งอาจเกิดจากโรคแพ้ภูมิตนเอง (Lupus) หรือความผิดปกติของเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน รวมถึงการติดเชื้อที่เป็นเหตุให้เกิดรอยแดง และการอักเสบบริเวณโคนเล็บ นอกจากนี้การสัมผัสกับน้ำบ่อย ๆ อาจทำให้ผิวหนังรอบเล็บเปื่อยยุ่ย ส่งผลให้เกิดการระคายเคืองจากสารเคมี เช่น สารเคมีจากน้ำยาทำความสะอาด
ลักษณะเล็บ : มีเส้นสีดำใต้ผิวเล็บ
หากมีเส้นสีดำใต้ผิวเล็บ ควรรีบไปพบคุณหมอให้เร็วที่สุด เนื่องจากอาจหมายถึงภาวะ Melanoma ซึ่งเป็นโรคมะเร็งผิวหนังชนิดที่อันตรายที่สุด หากสาเหตุเกิดจากโรคมะเร็งผิวหนัง ลักษณะเล็บจะเป็นเส้นสีดำ สีไม่สม่ำเสมอ เป็นแค่เล็บเดียว และผิวหนังที่โคนเล็บอาจมีสีดำด้วย
ลักษณะเล็บ : ผิวเล็บนูนโค้ง
อาการนี้จะเกิดขึ้นเมื่อส่วนปลายของนิ้วขยายใหญ่ขึ้น จนเล็บโค้งงอที่บริเวณปลายนิ้ว ปกติจะใช้เวลาเป็นปีว่าจะเกิดอาการเช่นนี้ อาการเล็บโค้งบางทีก็บ่งชี้ถึงออกซิเจนในเลือดต่ำ และอาจเป็นสัญญาณของโรคปอดบางชนิด และยังอาจสัมพันธ์กับลำไส้อักเสบ โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคตับ และเอดส์
ลักษณะเล็บ : ปลายเล็บมีวงสีคล้ำ
เป็นลักษณะของวงสีคล้ำที่ปลายเล็บ เรียกว่า Terry’s nails ส่วนใหญ่แล้วมักจะเกิดขึ้นเมื่อมีอายุมากขึ้น แต่ก็อาจเกิดมาจากโรคบางอย่างก็ได้ อย่างเช่นโรคเบาหวาน โรคตับ หัวใจวาย
ลักษณะเล็บ : เล็บเว้า
เป็นลักษณะที่เล็บเว้าลงจนคล้ายรูปช้อน (Spoon nails หรือ koilonychia)ส่วนใหญ่แล้วอาการนี้เป็นสัญญาณของโรคโลหิตจาง จากการขาดธาตุเหล็ก หรือ อาจเป็นไปในทางตรงกันข้ามก็คือ เกิดจากโรคตับ ที่ทำให้มีภาวะเหล็กเกิน (hemochromatosis) เนื่องจากร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กจากอาหารที่กินมากเกินไป บางครั้งอาการนี้ก็สัมพันธ์กับโรคหัวใจ และไฮโปไทรอยด์ หรือภาวะพร่องฮอร์โมนไทรอยด์
ลักษณะเล็บ : เล็บเป็นร่อง
ลักษณะที่เกิดร่องขวางเล็บที่เรียกว่า Beau’s lines เกิดขึ้นได้จากการที่การเติบโตของเล็บ ถูกรบกวนจากอาการบาดเจ็บหรืออาการเจ็บป่วยร้ายแรง เช่น เบาหวานกำเริบ อาการตีบของเส้นเลือดส่วนปลาย (peripheral vascular disease) หรือ จากการมีไข้สูงเนื่องจากไข้อีดำอีแดง (scarlet fever) โรคหัด คางทูม หรือนิวมอเนีย และยังอาจเป็นสัญญาณของการขาดธาตุสังกะสีก็เป็นได้
ลักษณะเล็บ : ปลายเล็บร่น
บางครั้งเล็บอาจแยกออกจากเนื้อเยื่อใต้แผ่นเล็บ เรียกภาวะนี้ว่าภาวะปลายเล็บร่น (Onycholysis) ซึ่งส่งผลให้มีพื้นที่ว่างใต้เล็บ โดยสาเหตุอาจเกิดจากการเป็นโรคบางอย่าง เช่น โรคสะเก็ดเงิน โรคไทรอยด์เป็นพิษ ติดเชื้อรา และ โรคผิวหนังอักเสบ
และนี่ก็คือ ลักษณะเล็บ บอกสุขภาพได้
คุณควรคอยหมั่นสังเกต และ ดูแลเล็บของตัวคุณเองอยู่เสมอ เพื่อสุขภาพของตัวเอง ก่อนที่อาจส่งผลต่อตัวเองในอนาคตในตอนที่ยากจะรักษาโรคที่เกิดจากเล็บ
อ้างอิง sanook


ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น