ไทยพลัสนิวส์ วิธีลดกลิ่นปากจากอาหารกลิ่นแรง
ไทยพลัสนิวส์ วิธีลดกลิ่นปากจากอาหารกลิ่นแรง
ไทยพลัสนิวส์ วิธีลดกลิ่นปากจากอาหารกลิ่นแรง อาหารไทยใส่เครื่องปรุง และเครื่องเทศมากมายที่ทำให้มีรสชาติอร่อย และ เข้มข้น แต่ก็ต้องแลกมากับกลิ่นอันรุนแรง ในอาหารสุดอร่อยเหล่านั้น ที่ทำให้บางครั้งเราก็ต้องอดใจไม่กิน เพราะ กลัวปากเหม็น หรือถ้าหากอยากกิน และ เลี่ยงไม่ได้ก็ต้องพยายาม หาวิธีทางมาลดกลิ่นปาก ซึ่งในหลาย ๆ ครั้งแปรงฟันและบ้วนปากก็ยังไม่อาจลดกลิ่นเหล่านั้นลงได้
ไทยพลัสนิวส์ วิธีลดกลิ่นปากจากอาหารกลิ่นแรง
วิธีลดกลิ่นปากจากอาหารกลิ่นแรง กระเทียม สะตอ หอมหัวใหญ่ ทุเรียน กะปิ ปลาร้า
1.กระเทียม
สาเหตุของกลิ่นกระเทียมมาจากเอนไซม์ ในกระเทียมที่ถูกเปลี่ยนเป็นสารอัลลิซิน ที่เกิดจากการตัด หรือ เคี้ยว ซึ่งสารนี้เป็นสารประกอบ ในกลุ่มซัลเฟอร์ ซึ่งทำให้เกิดกลิ่นปาก และ ลมหายใจ ซึ่งกลิ่นนี้อาจจะอยู่ได้ถึง 72 ชั่วโมง หรือ 3 วันเลยทีเดียว
แม้ว่าจะทำให้มีกลิ่นแรง แต่สารอัลลิซิน ในกระเทียมช่วยกระตุ้น การทำงานของเอ็นไซม์ ในการต้านอนุมูลอิสระ ลดความดันโลหิต และ ไขมันในเลือด
วิธีลดกลิ่นกระเทียม
ดื่มนม โดยเฉพาะ นมที่มีไขมัน จะสามารถลดกลิ่นได้ดีกว่านมพร่องมันเนย หรือ นมขาดมันเนย เพราะ นมมีน้ำ และ ไขมัน เป็นส่วนประกอบ ที่สามารถละลาย สารประกอบของสารซัลเฟอร์ ที่ละลายทั้งในน้ำ และในน้ำมันได้ทั้งคู่ ทำให้ลดการระเหยของกลิ่นกระเทียมได้
น้ำผลไม้ หรือ ผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว เช่น น้ำมะนาว น้ำส้ม เพราะน้ำผลไม้มีความเป็นกรด กรดจะสามารถเข้าไปยับยั้งเอนไซม์ที่เปลี่ยนสารในกระเทียมที่มีกลิ่นออกมาได้
2.สะตอ
สะตอเป็นพืชตระกูลถั่วฝัก มีสารพฤกษเคมี ที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ และ ลดน้ำตาลในเลือด สะตอก็มีสารที่มีองค์ประกอบซัลเฟอร์ ที่มีทำให้มีกลิ่นปาก และ ลมหายใจเช่นเดียวกัน และ ร่างกายของเราจะมีการขับออกทางปัสสาวะ ทำให้ปัสสาวะของเรามีกลิ่นสะตอด้วย
วิธีลดกลิ่นสะตอ
กินมะเขือเปราะ เพราะ มีสารพฤกษเคมี และเอนไซม์โพลีฟีนอล ออกซิเดส ที่ทำปฏิกิริยา กับ ส่วนประกอบซัลเฟอร์ ช่วยลดกลิ่นของสะตอได้
3.หอมหัวใหญ่
หอมหัวใหญ่เป็นพืชกลุ่มเดียวกับกระเทียม มีสารประกอบซัลเฟอร์ หรือ อัลลิซิน ที่ทำให้เกิดกลิ่นเฉพาะตัวได้เหมือนกัน นอกจากนี้ ยังมีองค์ประกอบ ของ อาหารสำหรับ จุลินทรีย์สุขภาพ ที่ช่วยให้ระบบทางเดินอาหารทำได้ดียิ่งขึ้นด้วย
วิธีลดกลิ่นหอมหัวใหญ่
หากรับประทานหอมหัวใหญ่ดิบใน สลัด สามารถรับประทาน ควบคู่ไปกับผักกาดหอมได้ ผักกาดหอมดิบมีสารพฤกษเคมี และเอนไซม์โพลีฟีนอล ออกซิเดส ที่ช่วยลดกลิ่นของหอมหัวใหญ่ได้
4.ทุเรียน
ทุเรียนมีสารประกอบซัลเฟอร์ที่ระเหยได้ง่าย ทำให้มีกลิ่นติดปาก และ ลมหายใจเมื่อรับประทานเข้าไป หากรับประทานมาก ๆ อาจเป็นการเพิ่มความเสี่ยงโรคเรื้อรังต่าง ๆ เช่น เบาหวาน และโรคหัวใจและหลอดเลือด
กะปิ ปลาร้า
5.กะปิ และ ปลาร้า ผ่านการถนอมอาหารด้วยการหมัก ทำให้มีกลิ่นจากการหมักเกิดขึ้น นอกจากนี้ยังมีโซเดียมสูงที่ทำให้ไต และ หัวใจของเราทำงานหนักมากขึ้นอีกด้วย
วิธีลดกลิ่นกะปิ และปลาร้า
เปลือกของผลไม้อย่างส้ม และ มะนาว จะมีน้ำมันหอมระเหย ที่ช่วยลดกลิ่นของกะปิ และ ปลาร้าได้ โดยรับประทานส้ม หรือ มะนาวฝานบาง (ติดเปลือก) เคี้ยวในปากหลังรับประทานกะปิ หรือ ปลาร้า
และนี่ก็คือ วิธีลดกลิ่นปากจากอาหารกลิ่นแรง กระเทียม สะตอ หอมหัวใหญ่ ทุเรียน กะปิ ปลาร้า
นอกจากนี้ ถ้ามีกลิ่นติดมือ หรือ ผิวหนังของเรา สามารถใช้เปลือกส้ม หรือ มะนาวมาถูบริเวณที่มีกลิ่น และล้างด้วยน้ำสะอาดตามได้ด้วยเช่นกัน
อ้างอิง sanook
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น