ไทยพลัสนิวส์ พรหมลิขิต แค่โลกกลมหรือชาติภพกำหนดชะตากรรม
ไทยพลัสนิวส์ พรหมลิขิต แค่โลกกลมหรือชาติภพกำหนดชะตากรรม
ไทยพลัสนิวส์ พรหมลิขิต แค่โลกกลมหรือชาติภพกำหนดชะตากรรม พรหมลิขิต ความเชื่อที่เล่าขานกันมายาวนาน ว่าด้วยเรื่องของโชคชะตาที่ลิขิต ไว้ให้ใครสองคนมาครองคู่กัน พจนานุกรมให้ความหมายของ พรหมลิขิต ว่า “อํานาจที่กําหนด ความเป็นไปของชีวิต” บางฉบับหมายถึง โชคชะตา หรือ บุญกรรมหากเล่าเรื่องความรัก พรหมลิขิต มักถูกนำนำมาใช้เป็นพล็อต เรื่องในนิยาย ภาพยนตร์ และ ละครโทรทัศน์ที่คนไทยคุ้นเคยเสมอ
ไทยพลัสนิวส์ พรหมลิขิต แค่โลกกลมหรือชาติภพกำหนดชะตากรรม
พรหมลิขิต แค่โลกกลมหรือชาติภพกำหนดชะตากรรม
พรหมลิขิต มาจากไหน โดย ไทยพลัสนิวส์
คำว่า “พรหมลิขิต” มาจากคำว่า “พรหม” และ “ลิขิต” “พรหม” หมายถึง เทพเจ้าสูงสุดในศาสนาฮินดู เป็นเทพเจ้าแห่งการสร้างสรรค์ ความเมตตา และเป็นผู้สร้างโลก “ลิขิต” หมายถึง การเขียน การกำหนด หรือการตัดสิน ดังนั้น คำว่า “พรหมลิขิต” จึงหมายถึง การเขียนหรือการกำหนดโชคชะตา โดย พระพรหม
ตามคติพราหมณ์ เชื่อว่า เด็กทุกคนเมื่อเกิดมาได้ครบ 6 วัน พระพรหมจะทำเครื่องหมาย บนหน้าผากของเด็ก ๆ ซึ่งจะบอกได้ถึงชะตาชีวิตของเด็กคนนั้น ตั้งแต่เกิดกระทั่งจนถึงวันตาย เช่น จะได้พบกับรักกับใคร จะต้องสูญเสียอะไร ฯลฯ ทุกสิ่งล้วน เกิดจากการกำหนด โดยพระพรหมทั้งสิ้น และนี่คือที่มาของคำว่า พรหมลิขิต
ในศาสนาพุทธ ความเชื่อเรื่องพรหมลิขิต มีรากฐาน มาจากความเชื่อเรื่องโชคชะตา และ กฎแห่งกรรม เชื่อว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในชีวิตล้วนแล้วแต่มีเหตุและผล แม้แต่การพบเจอของใครสองคน ก็เช่นกัน เชื่อกันว่าหากคนสองคนเกิดมาคู่กัน ไม่ว่าพวกเขาจะพบเจอกันอย่างไร แตกต่างกันแค่ไหน ยังไงก็ต้องได้ครองคู่กันในที่สุด
นอกจากความเชื่อเรื่องโชคชะตา และ กรรมแล้ว ความเชื่อเรื่องพรหมลิขิต ยังถูกนำมาอธิบายถึงความรักที่ไม่สามารถอธิบายได้ ความรักที่เกิดจากความรู้สึกบางอย่างที่ไม่สามารถอธิบายได้ ความรักที่แม้จะขัดแย้งกับเหตุผล แต่ก็ไม่สามารถต้านทานได้ ความรักเช่นนี้มักถูกมองว่าเป็นความรักที่เกิดจากพรหมลิขิตเช่นกัน
หากเชื่อเรื่อง พรหมลิขิต จะเข้าใจเรื่องนี้ โดย ไทยพลัสนิวส์
เชื่อว่าคนสองคนที่เกิดมาคู่กัน ไม่ว่าจะเจอกันที่ไหน ยังไงก็ต้องได้เจอกัน
เชื่อว่าคนสองคนที่เกิดมาคู่กัน จะมีความรู้สึกบางอย่างที่ดึงดูดกัน
เชื่อว่าคนสองคนที่เกิดมาคู่กัน แม้จะขัดแย้งกัน แต่สุดท้ายก็จะอยู่ด้วยกันได้
ความเชื่อเหล่านี้เป็นเพียงความเชื่อส่วนบุคคล ไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์มารองรับ แต่ความเชื่อเหล่านี้ก็เป็นสิ่งที่ทำให้ผู้คนมีกำลังใจในการใช้ชีวิต เชื่อว่าสักวันหนึ่งพวกเขาจะได้พบกับคนที่เกิดมาคู่กัน
ในต่างประเทศมีความเชื่อเรื่อง พรหมลิขิต หรือไม่
ความเชื่อเรื่องพรหมลิขิต มีอยู่ในทุกวัฒนธรรมทั่วโลก ความเชื่อนี้มักถูกนำมาใช้เป็นพล็อต เรื่องในนิยาย ภาพยนตร์ และ ละครโทรทัศน์ไม่แตกต่างจากไทย เฉกเช่น วรรณก้องโลก “โรมิโอกับจูเลียต” แต่เรื่องราวความรักมากมาย ในโลกนิยายและภาพยนตร์ ที่สามารถเกิดขึ้นได้แม้กระทั่งกับคนที่ไม่น่าเป็นไปได้ เป็นความรักที่ก้าวข้ามผ่านทุกความแตกต่าง
ในวัฒนธรรมตะวันตก ความเชื่อเรื่องพรหมลิขิตมักถูกเรียกว่า ” soulmate ” หรือ ” true love ” เชื่อกันว่าคนสองคนที่เกิดมาคู่กัน จะมีความรู้สึกบางอย่างที่ดึงดูดกัน แม้จะเจอกันครั้งแรก แต่ก็รู้สึกเหมือนรู้จักกันมานานแล้ว เชื่อกันว่าคนสองคนที่เกิดมาคู่กัน ไม่ว่าจะเจอกันที่ไหน ยังไงก็ต้องได้เจอกัน และจะอยู่ด้วยกันไปตลอดกาล
ในวัฒนธรรมตะวันออก ความเชื่อเรื่องพรหมลิขิต มักถูกเรียกอีกอย่างว่า “บุพเพสันนิวาส” เชื่อกันว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในชีวิตล้วนแล้วแต่มีเหตุและผล แม้แต่การพบเจอของใครสองคนก็เช่นกัน เชื่อกันว่าหากคนสองคนเกิดมาคู่กัน ไม่ว่าพวกเขาจะพบเจอกันอย่างไร ยังไงก็ต้องได้ครองคู่กันในที่สุด
ผิดไหมที่ไม่เชื่อเรื่อง พรหมลิขิต
ความเชื่อเรื่องพรหมลิขิตมีทั้งคนที่เชื่อ และ คนที่ไม่เชื่อ คนที่เชื่อมักมองว่าพรหมลิขิตเป็นสิ่งสวยงาม เป็นความโชคดีในชีวิต คนที่ไม่เชื่อมักมองว่าพรหมลิขิต เป็นเพียงความเชื่อส่วนบุคคล ไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์มารองรับ หลายคนเชื่อว่า โชคชะตากำหนดได้ด้วยตนเอง การพบกับเป็นเพียงความน่าจะเป็นหรือเหตุบังเอิญ การไม่เชื่อเรื่องพรหมลิขิต จึงไม่ใช่ความผิดบาปแต่อย่างใด การเอ่ยถึงโชคชะตาฟ้ากำหนดเป็นเพียง การกล่าวอ้างเมื่อต้องการกล่าวโทษ ต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิตเท่านั้น
พรหมลิขิต แค่โลกกลมหรือชาติภพกำหนดชะตากรรม
อย่างไรก็ตามความเชื่อเรื่องพรหมลิขิต ยังคงถูกนำมาอธิบายถึงความรัก ที่ไม่สามารถอธิบายหาเหตุผลได้ ความรักที่เกิดจากความรู้สึกบางอย่าง ที่ไม่สามารถอธิบายได้ ความรักที่แม้จะขัดแย้งกับเหตุผล แต่ก็ไม่สามารถต้านทานได้ ความรักเช่นนี้มักถูกมองว่าเป็นความรัก ที่เกิดจากพรหมลิขิต
ความเชื่อเรื่องพรหมลิขิตยังคงถ่ายทอดสืบ ต่อความคิดจนมองไม่เห็นทางสิ้นสุด ให้ความหวังกับผู้คนด้วยความเชื่อที่ว่า ทุกคนล้วนแล้วแต่มีใครอีกคนที่รอคอยอยู่ ไม่ว่าพวกเขาจะพบเจอกันอย่างไร แตกต่างกันแค่ไหน หรืออยู่ห่างไกลเป็นพันไมล์ สุดท้ายก็ต้องได้ครองคู่กันในที่สุด
อ้างอิง sanook
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น